“ความเป็นกลาง และความลับ” สองเสาหลักของความน่าเชื่อถือในห้องปฏิบัติการ
“Impartiality & Confidentiality” Two Pillars of Laboratory Credibility
อ้างอิงความสำคัญของ “ความเป็นกลาง” (Impartiality) และ “ความลับ” (Confidentiality) ตามที่กำหนดในมาตรฐานISO/IEC 17025:2017 ข้อที่ 4 “General Requirements” ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญสำหรับความน่าเชื่อถือ และการดำเนินงานอย่างมีจริยธรรมของห้องปฏิบัติการทดสอบ และสอบเทียบ
หลักการ
1. รากฐานของความน่าเชื่อถือ คือ ความเป็นกลาง และความลับไม่ใช่แค่ข้อกำหนดทางด้านเทคนิค แต่เป็นหลักการทางจริยธรรม คุณธรรม ที่สำคัญที่สุดในการสร้าง และรักษาความไว้วางใจจากลูกค้า (ผู้ใช้บริการ) หน่วยงานกำกับดูแล (หน่วยรับรอง : Accreditation Body) และสาธารณชน
2. การจัดการความเสี่ยงเชิงรุก คือ ห้องปฏิบัติการต้องระบุ ประเมิน และจัดการความเสี่ยงที่อาจกระทบต่อความเป็นกลาง และความลับอย่างต่อเนื่อง และเป็นระบบ
3. ความรับผิดชอบของบุคลากร และองค์กร คือ ทั้งผู้บริหาร และบุคลากรทุกคนในห้องปฏิบัติการ รวมถึงบุคคลภายนอกที่เกี่ยวข้อง มีส่วนรับผิดชอบในการรักษาหลักการทั้งสองนี้
4. การบูรณาการในระบบบริหารจัดการคุณภาพ คือ หลักการเหล่านี้ต้องถูกผนวกเข้ากับนโยบาย ขั้นตอนปฏิบัติงาน การฝึกอบรม และวัฒนธรรมองค์กรอย่างแท้จริง
ความหมาย และคำนิยาม ความเป็นกลาง (Impartiality)
การดำเนินงานโดยปราศจากความมีอคติทั้งด้านบวก และด้านลบ ปราศจากผลประโยชน์ทับซ้อน หรือแรงกดดันทั้งจากภายใน หรือภายนอกที่อาจมีผลต่อการดำเนินกิจกรรม ตลอดจนการบริหารงานของห้องปฏิบัติการ
ความลับ (Impartiality)
การรักษาข้อมูลที่ได้รับจากลูกค้า (ผู้ใช้บริการ) และที่เกิดขึ้นระหว่างกระบวนการทดสอบ/สอบเทียบ ไม่ให้ถูกเปิดเผย หรือใช้ในทางที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่เจ้าของข้อมูล สร้างความไว้วางใจ ป้องกันการรั่วไหลของข้อมูลที่อ่อนไหว รักษาข้อได้เปรียบทางการแข่งขันของลูกค้า (ผู้ใช้บริการ) และสอดคล้องกับข้อกำหนดทางกฎหมาย เช่น กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA : Personal Data Protection Act)
ข้อกำหนดที่ 4 General Requirements (ข้อกำหนดทั่วไป)
4.1 ความเป็นกลาง (Impartiality)
o ห้องปฏิบัติการต้องรับผิดชอบต่อความเป็นกลางของกิจกรรมการทดสอบ/สอบเทียบ
o ต้องไม่มีแรงกดดันทางการค้า การเงิน หรือความสัมพันธ์ใด ๆ ที่ส่งผลต่อความเป็นกลาง
o ต้องประเมินความเสี่ยงด้านความเป็นกลางอย่างต่อเนื่อง
o ต้องมีหลักฐานหรือแนวทางในการจัดการกับความเสี่ยงหากตรวจพบ
4.2 ความลับ (Confidentiality)
o ห้องปฏิบัติการต้องรับผิดชอบต่อการจัดการข้อมูลที่ได้รับจากลูกค้า (ผู้ใช้บริการ) อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
o ต้องแจ้งลูกค้า (ผู้ใช้บริการ) หากจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลตามกฎหมาย
o บุคลากรทุกคน (รวมถึงบุคคลภายนอกที่เกี่ยวข้อง) ต้องลงนาม หรือแสดงความยินยอมในข้อตกลงการรักษาความลับ
แนวทางการจัดการ และการนำไปประยุกต์ใช้ ของความเป็นกลาง (Impartiality) และ ความลับ (Confidentiality)
ข้อเสนอแนะ/การตรวจสอบข้อเท็จจริง (Audit Finding) ที่พบบ่อย 1. โครงสร้างผังองค์กร มีความเสี่ยงในการสูญเสียความเป็นกลาง เช่น ลูกค้า (ผู้ใช้บริการ) กำกับดูแลห้องปฏิบัติการ หรือบุคลากรห้องปฏิบัติการระดับบริหารดูแล และควบคุมลูกค้า (ผู้ใช้บริการ) เป็นต้น 2. นโยบายคุณภาพ (Quality Policy) ไม่มีการสื่อสารเรื่อง “ความเป็นกลาง และความลับ” 3. ขาดการลงนามของบุคลากรห้องปฏิบัติการ หรือผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อรับทราบ และตระหนักถึง “ความเป็นกลาง และความลับ” 4. ขาดการประเมินความเสี่ยงต่อความเป็นกลาง และแนวทางในการขจัด หรือจัดการความเสี่ยงที่เกิดขึ้น 5. การกำหนดสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลที่สำคัญ ของผู้ที่ไม่เกี่ยวข้อง บทสรุป“ความเป็นกลาง และความลับ” ไม่ใช่แค่ข้อกำหนดที่ต้องปฏิบัติตามเพื่อการได้รับการรับรอง ISO/IEC 17025:2017 เท่านั้น แต่เป็นหลักการสำคัญที่สร้างความแตกต่างระหว่างห้องปฏิบัติการที่มีความน่าเชื่อถือสูง กับห้องปฏิบัติการทั่วไป การบริหารจัดการทั้งสองเรื่องนี้อย่างเป็นระบบจะช่วยให้ห้องปฏิบัติการไม่เพียง “ผ่านการรับรอง” แต่ยังได้รับ “ความไว้วางใจ” จากลูกค้า (ผู้ใช้บริการ) อย่างแท้จริง ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับความยั่งยืน และอนาคตของห้องปฏิบัติการทุกแห่ง มนตร์เทพ วณิชชาภรกุล (มนดี้)Monthep Vanitchaparakul (Mondy)ConsultantFoodtek Supply and Consultant Co., Ltd.mkt.foodtek@gmail.com